รูปภาพ – หน้า 2 – Honmono Nippon
16/03/202309:13

14 มี.ค. – วันไวท์เดย์

วันไวท์เดย์

 


 

14 มีนาคม วันไวท์เดย์ ~~~ (White Day, ホワイトデー)

 

หลายๆ คนคงเคยได้ยินชื่อวันไวท์เดย์กันมาบ้างใช่ไหมคะ วันพิเศษอีกวันหนึ่งที่ตีคู่มากับวันวาเลนไทน์ เราลองมาดูประวัติ ความสำคัญ และสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นทำในวันนี้กันค่ะ

 

วันไวท์เดย์ของญี่ปุ่นเกิดขึ้นในช่วงปี 1977-1978 มีที่มาจากผู้บริหารท่านหนึ่งของบริษัทผลิตขนม อิชิมารุ มันเซโดะ (Ishimura Manseido) ได้อ่านจดหมายในนิตยสารผู้หญิงฉบับหนึ่งซึ่งมีใจความว่า “ผู้ชายต่างได้รับช็อกโกแลตจากผู้หญิงในวันวาเลนท์ไทน์ แต่ทำไมผู้หญิงกลับไม่ได้อะไรตอบแทนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นผ้าเช็ดหน้า ลูกอม หรือแม้แต่มาร์ชแมลโลว์…” (ตามธรรมเนียมของญี่ปุ่นวันวาเลนไทน์เป็นวันที่ผู้หญิงจะให้ช็อกโกแลตและของขวัญแก่ผู้อื่น) จึงเกิดเป็นไอเดียเพื่อส่งเสริมการขายและได้ให้พนักงานผู้หญิงในบริษัทร่วมโหวตวันที่ต้องการให้เป็น “วันได้รับของขวัญตอบแทน” ทุกคนตกลงกำหนดให้เป็นวันที่ 14 มีนาคม หนึ่งเดือนหลังจากวันวาเลนไทน์และตั้งชื่อว่าวันมาร์ชแมลโลว์ (Marchmellow) นั่นเอง บริษัทได้ผลิตขนมหวานแบบใหม่ขึ้นมาเพื่อวันนี้โดยเฉพาะเป็นมาร์ชแมลโลว์สีขาวสอดไส้ช็อกโกแลต สื่อความหมายว่า “ฉันขอเอาช็อกโกแลตที่ได้รับจากคุณ ห่อมันด้วยหัวใจสีขาวของฉัน” ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวันไวท์เดย์เพื่อให้เป็นปลายเปิดมากขึ้นและเริ่มได้รับความนิยมทั่วญี่ปุ่นประมาณช่วงปี 1980 จนประเทศอื่นๆ ในเอเชียมีการนำประเพณีนี้ไปใช้ด้วยเช่นกัน

 

ธรรมเนียมปฏิบัติในวันไวท์เดย์ของญี่ปุ่นคือฝ่ายชายที่ได้รับของขวัญวันวาเลนไทน์จะต้องเตรียมของขวัญเพื่อขอบคุณและตอบแทนความรู้สึกให้ฝ่ายหญิง ไม่ว่าจะตอบรับหรือปฏิเสธความรู้สึกนั้นก็ตาม โดยหากต้องการรับรัก ของขวัญจะต้องมีมูลค่า 3 เท่าของมูลค่าของขวัญที่พวกเขาได้รับไป นอกจากนี้ยังมีความหมายแฝงอยู่ในของขวัญแต่ละอย่างที่มอบให้ฝ่ายหญิงอีกด้วย ตัวอย่างเช่น

 

• มาร์ชแมลโลว์ – มีความหมายว่า “ฉันไม่สามารถรับความรู้สึกจากเธอได้” หรือ “ฉันไม่ได้ชอบเธอ” เพราะมาร์ชแมลโลว์เป็นขนมที่ละลายเร็ว สื่อถึงความรักที่ไม่ยั่งยืน

• คุกกี้ – มีความหมายว่า “เราเป็นเพื่อนกันเถอะ” เพราะคุกกี้ส่วนใหญ่มีความกรอบและแตกเป็นชิ้นเล็กๆ ได้ง่าย อีกทั้งยังมีส่วนผสมและรสชาติที่หลากหลาย เปรียบเสมือนความสัมพันธ์ที่ไม่หนักแน่นและเป็นความสัมพันธ์แบบทั่วๆ ไป ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ

• ลูกอม – มีความหมายว่า “ฉันก็รักคุณ” เพราะลูกอมคือขนมที่มีรสหวานยาวนานแม้จะละลายไปแล้วก็ยังทิ้งความหวานไว้ภายในปาก สื่อถึงความรักที่มั่นคงยาวนาน

• มาการอง – มีความหมายว่า “คุณคือคนสำคัญของผม” เพราะมาการองเป็นขนมที่ทำยากและมีราคาค่อนข้างสูง การมอบให้จึงหมายถึงคุณคือคนพิเศษ

 

รู้อย่างนี้แล้วหากใครจะมอบของขวัญในวันไวท์เดย์ก็อย่าลืมเลือกสรรกันดีๆ เพื่อความหมายจะได้ไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่ต้องการสื่อสารนะคะ หรืออาจจะเลือกมอบของขวัญอื่นๆ เช่น เสื้อผ้า, เครื่องประดับ, หรือกระเป๋าก็ได้เช่นกัน ขอให้ทุกคนมีความสุขและสมหวังในวันไวท์เดย์ค่ะ

 

 

 

 

#วันนี้วันอะไรกับฮอนโมโนนิปปอน #Honmononippon #ฮอนโมโนนิปปอน #คิดถึงอาหารญี่ปุ่นคิดถึงฮอนโมโนนิปปอน #วันไวท์เดย์ #Whiteday

07/03/202310:21

ทงคตสึราเมง

เมนูง่ายๆ สไตล์ฮอนโมโนนิปปอน EP. 5 – ทงคตสึราเมง

 


 

สำหรับคนที่ตกหลุมรักเมนูเส้นของญี่ปุ่นคงไม่มีใครไม่รู้จักทงคตสึราเมงกันใช่ไหมคะ ราเมงเหนียวนุ่มในน้ำซุปสีขาวเหมือนน้ำนม หอมกลิ่นกระดูกหมู และมีรสอูมามิกลมกล่อม ถือเป็นราเมงอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ ทงคตสึราเมงมีต้นกำเนิดมาจากเกาะคิวชูทางใต้ของญี่ปุ่น ใครชอบความอร่อยแบบเข้มข้นเราขอแนะนำว่าห้ามพลาดชามนี้เด็ดขาด ตอนนี้เราสามารถทำทงคตสึราเมงรับประทานเองได้ที่บ้านแบบสะดวกและรวดเร็วสุดๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาเคี่ยวกระดูกหมูหลายๆ ชั่วโมงอีกต่อไป มาเริ่มกันเลยค่ะ ~~~

 


 

ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่)

• ซุปปรุงรสทงคตสึเข้มข้น 25 กรัม (เพื่อความเข้มข้น สามารถปรับปริมาณซุปเพิ่มได้ตามต้องการ)
• น้ำร้อน 300 มล.
• เส้นราเมงสดแช่แข็ง 200 กรัม
• น้ำสำหรับลวกเส้นราเมง
• เครื่องเคียงตามชอบ เช่น หมูชาชูสไลซ์, ขิงดอง, ต้นหอมซอย, เห็ดหูหนูดำ, ถั่วงอก, หน่อไม้เมนมะ, สาหร่ายแผ่น, ไข่ต้ม เป็นต้น

 


 

ขั้นตอนการทำทงคตสึราเมง

1. ใส่ซุปปรุงรสทงคตสึเข้มข้นลงในชามที่เตรียมไว้
2. เติมน้ำร้อน 300 มล. ลงไปในชาม คนให้เข้ากัน
3. ต้มน้ำให้เดือด ใส่เส้นราเมงสดแช่แข็งลงไปต้มประมาณ 1-2 นาที นำขึ้นมาสะเด็ดน้ำ (เพื่อให้ได้ระดับความนิ่มที่ชอบ สามารถปรับเวลาได้ตามต้องการ)
4. ใส่เส้นราเมงลงในชามซุปที่เตรียมไว้
5. วางเครื่องเคียงที่ชอบลงไป ราเมงร้อนๆ พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ

 


 

Related products:

     

 

Source: Nihon Shokken

 

 

 

#เมนูง่ายๆสไตล์ฮอนโมโนนิปปอน #Honmononippon #ฮอนโมโนนิปปอน #คิดถึงอาหารญี่ปุ่นคิดถึงฮอนโมโนนิปปอน #TonkotsuRamen #Tonkotsu #ทงคตสึราเมง #ทงคตสึ #ราเมง

27/02/202310:56

แฮมเบิร์ก, ฮัมบากุ

20/02/202311:01

โอโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น)

เมนูง่ายๆ สไตล์ฮอนโมโนนิปปอน EP. 3 – โอโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น)

 


 

วันนี้เราขอชวนทุกคนมาสนุกและอร่อยไปกับการทำโอโคโนมิยากิหรือพิซซ่าญี่ปุ่น เมนูขึ้นชื่อในแถบโอซาก้าหรือคันไซ โดยคำว่า “โอโคโนมิยากิ” มาจากคำว่า โอโคโนมิ (お好み) ที่แปลว่าตามใจชอบ และยากิ (焼き) ที่แปลว่าย่างหรือปิ้ง โอโคโนมิยากิจึงหมายถึงอาหารที่ใส่ส่วนผสมตามใจชอบแล้วนำมาย่างนั่นเอง

โอโคโนมิยากิในแต่ละจังหวัดของญี่ปุ่นมีวิธีทำที่แตกต่างกัน แต่ที่ขึ้นชื่อคือของคันไซและฮิโรชิมา เป็นเมนูที่ใช้ส่วนผสมไม่กี่อย่างแถมวิธีทำก็ง่ายมากๆ ยิ่งมีชุดแป้งสำเร็จรูปก็ยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นไปอีก อย่ารอช้าค่ะ มาเริ่มทำโอโคโนมิยากิสไตล์คันไซกันเล้ยยยยย ~~~

 


 

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)

• ชุดแป้งผสมสำหรับทำโอโคโนมิยากิ 1 ชุด
• กะหล่ำปลี 300 กรัม
• ไข่ 2 ฟอง
• หมูสามชั้น 6 ชิ้น (ประมาณ 80 กรัม)
• ต้นหอมซอย 10 กรัม
• น้ำ 160 มล.
• ซอสโอโคโนมิยากิรสชาติที่คุณชื่นชอบ

 


 

ขั้นตอนการทำโอโคโนมิยากิสไตล์คันไซ

1. ผสมแป้งโอโคโนมิยากิ 1 ซอง กับน้ำ 160 มล. ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน
2. ซอยกะหล่ำปลีให้เป็นเส้นเล็กๆ กว้างประมาณ 3 มม. ยาว 2 ซม.
3. ใส่กะหล่ำปลี, ต้นหอมซอย, ไข่ 2 ฟอง และผงหมึกเทมปุระลงในแป้ง ผสมให้เข้ากัน
4. แบ่งเทส่วนผสมครึ่งหนึ่งลงในกระทะที่ร้อนปานกลาง โดยเกลี่ยเป็นชิ้นวงกลมหนาประมาณ 2 ซม. (เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 16 ซม.)
5. หลังจากผ่านไปประมาณ 3 นาที วางหมูสามชั้นลงไป 3 ชิ้น พลิกกลับด้าน
6. ปิดฝาอบไว้ประมาณ 4 นาที (เพื่อให้แป้งฟูขึ้นและสุกทั่วทั้งชิ้น)
7. เปิดฝาออก เมื่อแป้งและหมูเป็นสีน้ำตาลทองให้พลิกกลับด้านอีกครั้ง แล้วย่างต่ออีกประมาณ 3 นาทีเพื่อขจัดไอน้ำส่วนเกิน
8. ราดด้วยซอสโอโคโนมิยากิและโรยสาหร่ายด้านบน พร้อมเสิร์ฟค่ะ

 


 

สินค้าที่เกี่ยวข้อง:

                         

 

ที่มา: Otafuku

 

 

 

#เมนูง่ายๆสไตล์ฮอนโมโนนิปปอน #Honmononippon #ฮอนโมโนนิปปอน #คิดถึงอาหารญี่ปุ่นคิดถึงฮอนโมโนนิปปอน #พิซซ่าญี่ปุ่น #แพนแค้กญี่ปุ่น #โอโคโนมิยากิ #okonomiyaki #Otafuku #โอตาฟุกุ

10/02/202315:12

10 ก.พ. – วันข้าวหน้าหมู

วันข้าวหน้าหมู

 


 

10 กุมภาพันธ์ วันข้าวหน้าหมู~~~(ぶたどんの日 , Butadon no Hi )

 

ข้าวหน้าหมูหรือบูตะด้งที่เราคุ้นหน้าค่าตากันทุกวันนี้ มีต้นกำเนิดมาจากภูมิภาคโทคาจิ (Tokachi) ฮอกไกโด เนื้อหมูชิ้นหนานุ่มกำลังดี หมักซอสจนได้ที่แล้วนำไปย่างบนเตาถ่านหอมกรุ่น เสิร์ฟบนข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารญี่ปุ่นที่โด่งดังและได้รับความนิยมไปทั่วโลก สาเหตุที่กำหนดให้วันที่ 10 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันข้าวหน้าหมูนั้น เกิดจากการเล่นคำในภาษาญี่ปุ่นคือ ぶた (2) + どん (10) ออกเสียงว่า Butadon (บูตะด้ง) ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่า “ข้าวหน้าหมู” นั่นเอง ในวันนี้ที่ญี่ปุ่นจะมีการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับข้าวหน้าหมูฮอกไกโดอีกด้วยค่ะ

 

 

 

 

#วันนี้วันอะไรกับฮอนโมโนนิปปอน #Honmononippon #ฮอนโมโนนิปปอน #คิดถึงอาหารญี่ปุ่นคิดถึงฮอนโมโนนิปปอน #วันข้าวหน้าหมู #Butadonday #ข้าวหน้าหมู #Butadon #ดงบุริ #Donburi

 

 

 

10/02/202310:46

6 ก.พ. – วันแห่งชาเขียว

วันแห่งชาเขียว

 


 

วันนี้คุณดื่มชาเขียวแล้วหรือยัง?

 

ถ้าพูดถึงชาเขียวหลายๆ คนคงจะนึกถึงประเทศญี่ปุ่นกันขึ้นมาทันทีเลยใช่ไหมคะ ชาหอมๆ ที่ไม่ว่าจะดื่มแบบร้อน, แบบเย็น, แบบปั่น หรือนำไปประยุกต์กับเมนูอื่นๆ ก็อร่อยถูกปากถูกใจ คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการดื่มชาเป็นอย่างมากจนมีการกำหนดให้วันที่ 6 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็น “วันแห่งชาเขียว” เพื่อรณรงค์ให้ทุกคนได้เห็นถึงความสำคัญของชาเขียวที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย เช่น ช่วยแก้หวัด แก้ร้อนใน, ช่วยทำให้เจริญอาหาร, ช่วยเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ จึงสามารถช่วยล้างสารพิษและกำจัดพิษในลำไส้ได้, ช่วยป้องกันตับจากสารพิษและโรคต่างๆ และช่วยผ่อนคลายอารมณ์ ทำให้สดชื่น เป็นต้น ในวันนี้คนญี่ปุ่นแต่ละหมู่บ้านจะมีการจัดพิธีการชงชาแบบดั้งเดิมและพิธีการดื่มชาแบบมัทฉะ เพื่อให้เข้าใจถึงพิธีการชงชาและดื่มชาที่มีการสืบทอดกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษให้มากขึ้นอีกด้วยค่ะ

 

หากใครยังคิดไม่ออกว่าวันนี้จะดื่มอะไรดี ลองชงชาเขียวร้อนๆ สักแก้วดูสิคะ

 

 

 

 

#วันนี้วันอะไรกับฮอนโมโนนิปปอน #Honmononippon #ฮอนโมโนนิปปอน #คิดถึงอาหารญี่ปุ่นคิดถึงฮอนโมโนนิปปอน #วันแห่งชาเขียว #Greenteaday #ชาเขียว #Greentea

 

27/01/202317:33

ทาโกะยากิ

เมนูง่ายๆ สไตล์ฮอนโมโนนิปปอน EP. 2  –  ทาโกะยากิ

 


 

ทาโกะยากิเป็นหนึ่งในเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมที่เราคุ้นเคย แป้งผสมเนื้อปลาหมึกยักษ์ ลูกกลมๆ กรอบนอก นุ่มใน ราดซอสรสหวานๆ เค็มๆ กลมกล่อม เรียกได้ว่าอร่อยถูกปากคนทุกเพศทุกวัยกันเลยทีเดียว

วันนี้เราขอแนะนำวิธีการทำทาโกะยากิโดยใช้ชุดแป้งสำเร็จรูป ให้คุณได้สนุกกับการทำทาโกะยากิได้ง่ายๆ ที่บ้าน พร้อมความอร่อยแบบต้นตำรับจากญี่ปุ่น ไปเริ่มกันเลยค่ะ ~~~

 


 

ส่วนผสมมีดังนี้ (ประมาณ 32 ลูก)

• ชุดแป้งผสมสำหรับทำทาโกะยากิ 1 ชุด
• น้ำเปล่า 500 มล.
• ปลาหมึกยักษ์ (สับ) ประมาณ 160 กรัม
• ไข่ 2 ฟอง
• ต้นหอมซอย 2 ต้น
• น้ำมันสลัด ปริมาณตามต้องการ
• ซอสทาโกะยากิรสชาติที่คุณชื่นชอบ

 


 

ขั้นตอนการทำทาโกะยากิ

1. ใส่ไข่ 2 ฟองและแป้งทาโกะยากิลงในน้ำ 500 มล. คนให้เข้ากัน
2. ใส่ต้นหอมซอย ผงหมึกเทมปุระ และขิงแดงลงในชามผสมแยกไว้
3. ตั้งกระทะทาโกะยากิที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส ทาแต่ละหลุมด้วยน้ำมันสลัด หยอดแป้งที่ผสมไว้ลงในหลุม ปริมาณประมาณ 80% ของหลุม
4. ใส่ปลาหมึกยักษ์และส่วนผสมที่ใส่ชามแยกไว้ลงไปในหลุม แล้วเติมแป้งจนล้นออกมาจากหลุม
5. เมื่อแป้งที่ล้นออกมาเริ่มสุก ใช้ไม้จิ้มทาโกะยากิตัดแป้งออกจากกัน แล้วค่อยๆ พลิกกลับด้าน (ระวังอย่าทิ้งไว้จนแป้งแข็งเกินไป)
6. ปั้นทาโกะยากิให้เป็นทรงกลม
7. ทอดทาโกะยากิต่อไปจนเป็นสีทองอมน้ำตาล กรอบนอกนุ่มใน
8. เมื่อสุกแล้ว จัดเสิร์ฟโดยราดซอสทาโกะยากิและสาหร่าย

 

 


สินค้าที่เกี่ยวข้อง:

               

 

ที่มา: Otafuku

 

 

 

 

#เมนูง่ายๆสไตล์ฮอนโมโนนิปปอน #Honmononippon #ฮอนโมโนนิปปอน #คิดถึงอาหารญี่ปุ่นคิดถึงฮอนโมโนนิปปอน #ทาโกะยากิ #takoyaki #Otafuku #โอตาฟุกุ

 

 

 

 

19/01/202310:20

ซุปมิโซะ

เมนูง่ายๆ สไตล์ฮอนโมโนนิปปอน EP. 1  –  ซุปมิโซะ

 


 

เวลาที่เราไปทานอาหารตามร้านอาหารญี่ปุ่น หลายๆ คนก็คงติดอกติดใจเจ้าซุปหน้าตาน่ารับประทานอย่างซุปมิโซะกันใช่ไหมคะ

ซุปมิโซะร้อนๆ ซดแล้วคล่องคอ โรยหน้าด้วยสาหร่าย เต้าหู้ และต้นหอม เป็นเมนูที่ขาดไม่ได้บนโต๊ะอาหารของชาวญี่ปุ่น เพราะเป็นซุปที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ทั้งช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร, มีสารอาหารและแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงกระดูก, มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของผิวพรรณ และประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย

คนญี่ปุ่นมักจะทานซุปมิโซะอย่างน้อยวันละ 1 ถ้วยทุกวัน แต่ถ้าเราจะเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นเพื่อทานซุปมิโซะทุกวันอาจเป็นการไม่สะดวกสำหรับบางคน วันนี้แอดมินจึงขอนำเสนอวิธีทำซุปมิโซะทานเองที่บ้านแบบง่ายๆ สไตล์ฮอนโมโนนิปปอนให้กับทุกคนค่ะ

 


 

ส่วนผสมมีดังนี้ (สำหรับ 3 ถ้วย)

1. น้ำซุปดาชิ 3 ถ้วย (720 มล.)ปี
2. มิโซะ 3 ช้อนโต๊ะ
3. เต้าหู้อ่อน 150 กรัม หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ขนาดประมาณชิ้นละ 2×2 ซม.
4. สาหร่ายวากาเมะแห้ง 1 ช้อนชา หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตามต้องการ
5. ต้นหอมซอย 1/2 ถ้วย

 


 

ขั้นตอนการทำซุปมิโซะ

1. เทน้ำซุปดาชิลงในหม้อแล้วตั้งบนเตาใช้ความร้อนสูงจนเดือด
2. ลดไฟให้ต่ำลงแล้วใส่มิโซะลงไป คนให้ละลายเข้ากัน
3. ใส่เต้าหู้อ่อนและสาหร่ายวากาเมะลงไปในน้ำซุป แนะนำให้ค่อยๆ ปาดจากเขียงลงหม้อโดยตรงเพื่อป้องกันเต้าหู้บี้เสียทรงค่ะ
4. เมื่อสังเกตุว่าเต้าหู้ในหม้อเริ่มขยับให้ปิดไฟก่อนที่เต้าหู้จะลอยขึ้นมา
5. โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย พร้อมเสิรฟได้เลยค่ะ

 

ซุปมิโซะจะมีรสชาติอร่อยกลมกล่อมหรือไม่นั้น แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญอยู่ที่มิโซะที่เราเลือกใช้ด้วยค่ะ ยิ่งถ้าเราอยากรับประทานซุปมิโซะที่เป็นรสชาติแบบต้นตำรับ แอดมินขอแนะนำให้ใช้เป็น Organic White Miso จาก Hikari-Miso ซึ่งเป็นแบรนด์มิโซะชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น มิโซะสไตล์ชินชูดั้งเดิมที่ทำจากข้าวออร์แกนิกและถั่วเหลือง มีสีเบจสว่าง กลิ่นหอมสดชื่น และรสอูมามิที่หลากหลายลงตัวค่ะ

 


สินค้าที่เกี่ยวข้อง:

 

ที่มา: Hikari-Miso

 

 

#เมนูง่ายๆสไตล์ฮอนโมโนนิปปอน #Honmononippon #ฮอนโมโนนิปปอน #คิดถึงอาหารญี่ปุ่นคิดถึงฮอนโมโนนิปปอน #ซุปมิโซะ #มิโซะ #miso

 

 

Showing 2-2 ของ 17 results
Buy now
Select the fields to be shown. Others will be hidden. Drag and drop to rearrange the order.
  • Image
  • SKU
  • Rating
  • Price
  • Stock
  • Availability
  • Add to cart
  • Description
  • Content
  • Weight
  • Dimensions
  • Additional information
Click outside to hide the comparison bar
เปรียบเทียบ